ลดพึ่งพาจีน ย้ายมาอาเซียน ไม่ง่ายต่อญี่ปุ่น |รายการ อาเซียนพลัส | จันทร์ที่ 30 พ.ค. 2565 |
|
ลดพึ่งพาจีน ย้ายมาอาเซียน ไม่ง่ายต่อญี่ปุ่น |รายการ อาเซียนพลัส | จันทร์ที่ 30 พ.ค. 2565
กรอบเศรษฐกิจอินโดแปซิฟิก ประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 โดยประธานาธิบดีโจ ไบเด็น แห่งสหรัฐฯ ระหว่างการเยือนญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ พันธมิตรใกล้ชิดสหรัฐ อย่างญี่ปุ่น ได้เตรียมมาตรการ เพื่อ "ลดการพึ่งพาจีน" มาพักใหญ่แล้ว ในการประชุมสุดยอดญี่ปุ่น-สหภาพยุโรปหรืออียู เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีการนั่งคุยกันว่า สองฝ่ายจะ “ลดการพึ่งพาจีน” ในห่วงโซ่อุปทานการผลิตได้อย่างไร และจะร่วมมือกันทางการค้าและเทคโนโลยีให้มากขึ้น ประเด็น “ลดการพึ่งพาจีน” ของยุโรป และญี่ปุ่น สอดคล้องกับความต้องการของสหรัฐฯ โดยเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสหรัฐอเมริกา นาย โคจิ โทมิตะ กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจไบเด็นของสหรัฐฯ คุยถึงเรื่องนี้ ในการเยือนญี่ปุ่น และนี่คือแผนต่อต้านอำนาจทางเศรษฐกิจของจีนในเอเชียแปซิฟิก เว็บไซต์ Global times ของทางการจีนมองว่า การหาความร่วมมือ กับภูมิภาคอื่นในประเด็นจีน เป็นวาระการประชุมที่แย่ การลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานการผลิตจากจีน นอกจากจะสร้างเงามืดให้กับการพัฒนาเอเชียแล้ว ประเด็นนี้ยังไม่ใช่ข่าวดีสำหรับญี่ปุ่นด้วย เพราะอะไร ความพยายามจะแยกตัวออกจากจีน ถึงไม่ดีต่อญี่ปุ่น อย่างแรกคือ เศรษฐกิจของญี่ปุ่น เข้าไปเกี่ยวข้องผูกพันกับเศรษฐกิจ และการค้าของเอเชียชนิดที่แยกกันไม่ออก เช่น จีน- เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น อาเซียน- เป็นคู่ค้าอันดับสองของญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา-เป็นคู่ค้าอันดับสามของญี่ปุ่น สหภาพยุโรป-เป็นคู่ค้าอันดับสี่ของญี่ปุ่น ในปี 2564 ญี่ปุ่นเสียดุลการค้า มากถึง 42,400 ล้านดอลลาร์ ( 1.46 ล้านล้านบาท) สูงสุดในรอบ 7 ปี แต่การส่งออกไปจีนมีมูลค่าสูงขึ้น ร้อยละ 14.9 มีมูลค่ามากถึง 140,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (4.85 ล้านล้านบาท) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ญี่ปุ่นเข้าไปตั้งบริษัทผลิตสินค้ามากถึง 5,600 บริษัท บริษัทญี่ปุ่นไม่ได้เข้าไปเล็งตลาดในจีนอย่างเดียว แต่บริษัทญี่ปุ่นเจ้าไปตั้งฐานในเซี่ยงไฮ้เพื่อใช้เป็นฐานขยายไปตลาดโลก จีนทำหน้าที่เป็น “ศูนย์กลางโรงงานผลิตโลก” และเป็นที่เดียวในโลก ที่รับตั้งโรงงานในทุกอุตสาหกรรมการผลิต ตามที่มีการจัดประเภทของอุตสาหกรรมโดยสหประชาชาติ ไม่มีชาติใดทำได้ นอกจากตลาดผู้บริโภคขนาดมหึมาของจีนแล้ว ความเชื่อมโยงที่ครอบคลุม ระหว่างจีนกับเศรษฐกิจโลกทั้งในแง่ของห่วงโซ่การค้าและห่วงโซ่อุตสาหกรรม มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจระดับโลก รวมถึงธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่น นอกจากตลาดผู้บริโภคขนาดมหึมาของจีนแล้ว ความเชื่อมโยงที่ครอบคลุม ระหว่างจีนกับเศรษฐกิจโลก ทั้งในแง่ของห่วงโซ่การค้าและห่วงโซ่อุตสาหกรรม มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจระดับโลก รวมถึงธุรกิจจากญี่ปุ่น จีนเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีเครือข่ายตลาดเชื่อมโยงทั่วโลก ทั้งด้านการค้าทั่วไปและการค้าในห่วงโซ่อุปทานการผลิต ซึ่งเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมโลก รวมทั้งญี่ปุ่นด้วย โดยจีนและญี่ปุ่นและสมาชิกในข้อตกลง ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ที่ทั้งคู่แบ่งปันศักยภาพทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ ญี่ปุ่นจะลาจากตลาดจีนไปได้อย่างไร ในความเป็นจริงที่ทุกคนทราบกันดี เอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความความแตกต่าง และหลากหลาย ทั้งการปกครองที่ไม่เหมือนกัน ทั้งระบอบสังคมนิยม ระบอบประชาธิปไตย และเผด็จการ แต่ต่างก็เคารพซึ่งกันและกัน และมีความสมดุลคงที่ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเติบโต และเติบโตมั่นคง ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก ส่วนการทำธุรกิจของญี่ปุ่นในสภาพยุโรปนั้นไม่ได้ราบรื่น โดยเฉพาะเมื่ออังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ส่งผลที่ไม่ดีนักกับธุรกิจของบริษัทญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นใช้อังกฤษเป็นฐานผลิตสำหรับตลาดยุโรป ทำให้ญี่ปุ่นต้องย้ายฐานผลิต บางส่วนกลับบ้านเช่น ปี 2563 ย้ายฐานฮอนด้านจากอังกฤษกลับบ้าน ปี 2564 ปิดโรงงานฮอนด้านที่อังกฤษ จีนซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการฟื้นตัวของโลกหลังยุคโควิด มุ่งมั่นที่จะปกป้องพหุภาคี มีส่วนสนับสนุนเสถียรภาพในภูมิภาค และการดำเนินงานที่ราบรื่นของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก อันที่จริง โครงการภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ที่จีนเสนอมีบทบาทในการอำนวยความสะดวก ในความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป ส่วนหนึ่งของการลดพึ่งพาจีน ญี่ปุ่น ต้องการย้ายฐานผลิตไปอาเซียน ส่วนใหญ่เน้นที่เวียดนามและไทย ไม่เฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้น บริษัทอเมริกันเอง ก็มีการย้ายการผลิตบางส่วนออกจากจีนมายังอาเซียน แต่การย้ายมาอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนาม จะทำได้ตามใจหวัง และลดการพึ่งพาจีนได้จริงหรือไม่ #ญี่ปุ่น #สหรัฐฯ #สหรัฐอเมริกา #อินโด-แปซิฟิก #อินโดแปซิฟิก #ย้ายฐานการผลิตจากจีน ------------------------------------------ #TNN #อาเซียน4.0 #อาเซียน4.0ออนไลน์ #อาเซียนพลัส #อาเซียน #ASEANplus ติดตามทุกความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอาเซียนได้ใน รายการ อาเซียน Plus ทุกวันจันทร์ เวลา 10.30-11.00 ทาง TNNช่อง16 และ รายการ อาเซียน 4.0 ONLINE ทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.00-17.30 รับชมสด ได้ทาง Youtube: TNN Online และ FACEBOOK LIVE PAGE : TNN LIVE ------------------------------------------ ช่องทางติดตามสถานีข่าว TNN ช่อง16 https://www.tnnthailand.com https://tv.trueid.net/live/tnn16 https://www.youtube.com/c/tnn16 https://www.facebook.com/TNNthailand/ https://www.facebook.com/TNN16LIVE/ https://twitter.com/tnnthailand https://www.instagram.com/tnn_online/ https://www.tiktok.com/@tnnonline Line @TNNONLINE หรือคลิก https://lin.ee/4fP2tltIo ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง กับ TNNช่อง16 สถานีข่าวที่ถือหลักการของการนำเสนอข่าวตรงประเด็น รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลาง โดยทีมข่าวมืออาชีพ |